วันนี้พามาชมความน่ารักของรถไฟสายโรแมนติก ที่สวยสุดๆ ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี แต่นี่เรามาชมในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ข้างทางเต็มไปด้วยดอกไม้กันค่ะ และเค้ามีขบวนที่สมเด็จพระจักรพรรดิเคยเสด็จมาชมวิวด้วยค่ะ ได้ถ่ายเลขที่พระองค์ทั้งสองประทับมาด้วย ใครที่ชอบนั่งรถไฟชมวิว แนะนำเลยค่ะ สำหรับรถไฟ Torokko watarasekeikoku railway ขบวนที่สมเด็กพระจักพรรดิเคยประทับนั้นจะเป็นเที่ยวพิเศษ โดยรถไฟขบวนนี้จะสามารถเหมาขบวนในการขอแต่งงาน หรือมีจัดงานสำคัญได้ด้วย เดี๋ยวเราไปนั่งรถไฟเส้นนี้แล้วค่อยๆ ดูในแต่ละขบวนค่ะ
รถไฟสายนี้จะวิ่งตั้งแต่จังหวัดกุนมะ จนถึงจังหวัดโทชิกิ เรียกว่าปลายทางน่ะ อยู่ไม่ห่างจากนิกโก้ เค้าบอกว่านั่งแท็กซี่ไปนิกโก้ได้เพียงใช้เวลา 25 นาที แสดงว่าไม่ห่างกันมาก แต่จุดเริ่มของสายนี้น่ะ ไม่ไกลจากโตเกียวเลย
การเดินทาง โดยสาร Tobu Ryomo จากสถานี Tobu Asakusa → Aioi ด้วยรถไฟ Watarase Keikoku Tetsudo Line
สามารถเดินทางจากสถานี Tobu Asakusa ได้แต่ว่าวันนี้เลือกที่จะขึ้นจาก Kitasenju เพราะว่าใกล้บ้านค่ะ แต่ราคาไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ เป็นรถไฟเรียวโม มีค่าจองที่นั่ง 1,030 เยน ค่าโดยสาร 1,200 เยน ก็สองพันสองร้อยสามสิบเยนเองค่ะ ทางเข้าจะเป็นทางเข้าพิเศษสำหรับรถไฟแบบจองที่นั่งนะคะ จะเป็นทางเข้าเดียวกับรถไฟสาย Tobu ที่ไปยังคินุกาว่าออนเซ็นเลยค่ะ
จากนั้นเราเดินทางมาถึงสถานี Aioi เพื่อมาต่อรถไฟโบราณ สายโรแมนติกเนี่ยแหล่ะค่ะ มาถึงแล้วก็เจอกุนมะจังเต็มเลย นี่เราถึงจังหวัดกุนมะแล้วสินะ
ซึ่งสถานีนี้จะมีบัตรพาส 1 วัน ราคา 1,850¥ ขายด้วย จากโตเกียวก็จะใช้เวลาประมาณเกือบๆ 2 ชั่วโมง แล้วจากนั้นเรามาเปลี่ยนสายที่นี่ ถ้าใครไม่ซื้อพาสก็ได้ ให้เลือกทำการบ้านดีๆ แล้วถ้าชอบลงหลายที่ก็เรียกว่าซื้อพาสเถอะค่ะ ลงได้ทุกสถานีของสายนี้ 1 วัน
รถไฟ Ryomo ที่ลงมาก็จะหน้าตาแบบนี้เลยค่ะ ลองเทียบรูปรถคลาสสิกของรถไฟ Watarase Keikoku Tetsudo Line เป็นรถไฟที่มีอายุถึง 100 ปี ดูแล้วเป็นยังไงบ้างคะ แตกต่างกันเลย
รถไฟโบราณที่ขึ้นขบวนนี้จะไม่ใช่ Torokko เป็นรถไฟเก่าที่วิ่งเพียงตู้เดียว ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีอาจจะมีสองตู้ ถ้าช่วงพีคๆ นะคะ ตลอดทางมีทั้งดอกซากุระ ชิบะซากุระ (มีข้างทาง) ดอกโมโมะ มีหลายสีด้วย คือตั้งแต่ออกจากสถานีก็ชมวิวกันเพลินเลย
พวกเราจะเลือกลงที่สถานี GODO ก่อนเพื่อทานข้าว ร้านข้าวเก๋ๆ แล้วไปเที่ยวต่ออีกหลายจุดจะค่อยๆ ลงที่ละสถานีค่ะ ของดีเค้าเยอะก็อย่างนี้แหล่ะ
การซื้อตั๋วถ้าซื้อไม่เป็นก็สามารถเรียกนายสถานีช่วยนะคะ แต่เค้ามีภาษาอังกฤษอยู่ค่ะ
แผนที่สถานีต่างๆ ค่ะ ถ้านึกอะไรไม่ออก สามารถมาดูที่แผนที่นี่นี้ได้เลย
ซื้อเสร็จแล้วก็ออกมาซื้อน้ำ ปรากฎตู้ก็เป็นมาสคอตของสายรถไฟนี้ค่ะ
ด้านในรถไฟจะเป็นแบบนี้
เอากุนมะจังมาด้วย ไปไหนไปกันนะจ๊ะที่รัก!!
เอาหล่ะ ถึงสถานี Godo แล้ว สถานีนี้พีคมากค่ะ เรียกได้ว่ามีเพื่อนชวนเพื่อน มีลูกชวนลูก มีญาติชวนญาติ 🌸😍💕😻😘 ใกล้โตเกียวมากทำไมเเพิ่งรู้จักที่นี่นะ!!!
เจอที่แรกก็อิ่มเอมมากสำหรับซากุระ และดอกโมโมะ คือมันสีสด ในต้นนึงมีสามสี ชอบมากๆ
เอาหล่ะ เราต้องกินก่อนค่ะ ไปนั่งทานเลย ร้านนี้ดัง เพราะเป็นตู้รถไฟเก่า นำมาดัดแปลงเป็นร้านอาหาร คนจึงนิยมมากันค่ะ
ร้านมีชื่อว่า Seiryu ค่ะ ในนี้จะมีอะไรให้เราทานบ้างน้าาาา ชมวิวดอกไม้ พร้อมทานอาหารไปพลางๆ คงจะดีไม่น้อยเลย เก๋กู้ดมากๆ ค่ะ นั่งทานเหมือนอยู่ในรถไฟ โอตะคุรถไฟแบบอีฮั้นเพลนเลย!!
เมนูมีอยู่หลายเซตอยู่ค่ะ เป็นแบบกดตู้ แต่ว่าเลือกมาแบบมีปลาหมึกทอดด้วย แนะนำเลยปลาหมึกทอด สี่ร้อยกว่าเยนอร่อยมาก
เมื่อท้องอิ่มค่อยออกมาถ่ายรูปกันค่ะ
ดอกโมโมะ หรือดอกพีช สวยมาก ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเค้ามีดอกนี้ด้วยมันแปลกตรงที่ในต้นเดียวมีสีได้ถึง 3 สี
สะพานสวยที่สถานี Mizunuma ชื่อสะพานคุโระโฮเนะ
สวนจะมีดอกไม้หลายพันธุ์มาก คือเรียกว่าเดินออกมาจากสถานีเพียง 1 นาทีก็เจอความสวยแบบนี้เลย
มีลำธารด้วย ตรงจุดนี้เป็นจุดที่ต้องห้ามพลาดเลย แล้วที่แนะนำก่อนนั้นก็เพราะว่าจะได้มีเวลาอยู่ที่นี่นานๆ ได้ เดี๋ยวแดดหมดจะอดถ่าย เพราะเชื่อว่าหลายคนคงใช้เวลากับที่นี่เยอะ
จากนั้นพวกเราจึงไปยังสถานีสุดท้ายค่ะ เพื่อให้ไปได้คุ้มค่าที่สุด ที่สถานี Mato อาจจะมีอะไรไม่ค่อยมาก แต่ก็ขอเก็บภาพสักหน่อย
ที่นี่มีเส้นทางรถไฟสายเก่า แต่เค้าไม่ได้เปิดให้ประชาชนเดินเล่น เนื่องจากเก่ามาก ถ้าเดินเล่นอาจจะเกิดอันตรายได้ เลยเก็บภาพมาให้ดูไกลๆ
และเราก็ลงที่สถานี Ashio เพื่อมาดูพิพิธภัณฑ์เหมือง ซึ่งที่นี่จะมีค่าเข้า 820 เยน และเราจะโดยสารรถไฟเข้าไปในเหมืองกันค่ะ ไปดูการขุดแร่ และการทำเงินในอดีต ซึ่งมีหลายอย่างให้เล่นมากๆ ใครที่เรียนเกี่ยวกับเรื่องแร่ต่างๆ น่าจะได้ความรู้มาก มีการจำลองการขุด แล้วได้เข้าไปในถ้ำจริงๆ ด้วยค่ะ
นั่งรถไฟขบวนนี้ไปค่ะ เรียกว่าเข้ามาแล้วคุ้มจริงๆ เค้ามีหุ่นจำลองการทำงาน แล้วก็บอกว่าการเข้าไปทำงานในเหมืองในอดีตเนี่ยต้องแก้ผ้าออกมหมดเลยทั้งขาเข้าแล้วขาออก และการทำเงินเหรียญรูในอดีต
และมีของขายด้วยค่ะ ใครที่ชอบภาชนะ คุณภาพดีๆ แนะนำเลย
สนุกสนานเลยค่ะ คนสะสมเงิน ต้องชอบแน่ๆ รถไฟเข้าเหมืองเป็นไงคะ เท่ห์มั๊ย
เอาหล่ะ เมื่อเต็มอิ่มกับเหมืองแล้วเราจะไปชมความสวยของสถานี Sori กันค่ะ สถานีนี้ช่วงโกลเด้นวีค(ต้นเดือนพค.) เค้าว่าดอกไม้สวยไม่แพ้ช่วงปลายมีนาคมเลย
สถานีนี้มีความเท่ห์แบบบอกไม่ถูก ถ้ามากับคนถ่ายรูปสวยๆ น่าจะได้ภาพแบบวินเทจดีๆ กลับไปแน่ๆ
เค้าบอกว่าศาลารอรถไฟนี้เป็นจุดที่ชอบมีถ่ายละคร หรือเป็นมุมมาถ่ายแบบกัน
เรียกได้ว่าสถานีนี้เป็นสถานีแบบไม่ได้มีดอกไม้เกือบร้อยต้นเหมือนสถานีอื่น แต่ก็ดีมีอะไร
ช่วงโกลเด้นวีคจะเป็นแบบนี้ค่ะ
Okanaozaburoushouten (岡直三郎商店)เราสามารถชมในส่วนของถังไม้ 24 ถัง ความสูง2 เมตร 20 ซม. ที่นี่จะมีถังหมักรวมแล้ว 70 ถังด้วยกันถังไม้จะมีปริมาณ 5,000 ลิตร ถึง 6,000 ลิตเลย
เข้ามาแล้วเห็นครัวเค้าอย่างกับหนังเรื่องแดจังกึม
ในโรงงานก็มีหลายอย่างให้เราได้ชมอยู่
ด้านในจะมีความเหมือนบ้านผสมโกดัง
ตรงส่วนนี้เค้าให้นั่งทานไอศครีมโชยุค่ะ ตอนแรกๆ รู้สึกแปลกๆ จะทานดีเหรอ แต่ลองซื้อทานกันแล้วอร่อยมาก
นี่เลยค่ะ หน้าตาดี รสอร่อย
จากนั้นเรามากันที่จุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีกันค่ะ แต่ช่วงนี้ใบผลิ จะได้เห็นแค่ดอกไม้บาน ห้าาาา แต่จากวิวแล้วท่าจะสวย
ที่พื้นบนสะพานมีภาพวาดน่ารักๆ เพียบเลยค่ะ เมื่อชมวิวกันแล้วก็ไปดูรถไฟที่สถานีกัน
มาค่ะมา มาชมรถไฟกัน!!! รถไฟนี้แหล่ะเป็นรถไฟที่พระมหาจักรพรรดิ ได้เคยประทับมาแล้ว
ได้ถ่ายภาพทั้งสองพระองค์บนรถไฟด้วย
เค้ามี illumination ในรถไฟด้วยนะคะ อย่างสวยเลย ถ้าใครจะพาสาวมาขอแต่งงานก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง หรือจะพามาจัดปาร์ตี้ที่นี่เค้าก็รับ
เอาหล่ะค่ะ ประทับใจมากๆ แล้วสำหรับสายรถไฟโรแมนติกแห่งนี้ 1 วันไม่พอจริงๆ ค่ะ ต้องค้างจะดีงามกว่ามาก แล้วเราก็เดินประมาณ 5 นาทีมาขึ้นที่สถานี Akagi ซึ่งเป็นสถานีติดกับ Omama แต่ต้องเดินค่ะ ชอบมากๆ เลย เอาไว้ใบไม้เปลี่ยนสีจะมาเก็บภาพซ้ำแน่นอน สัญญาเลย!!
เมื่อขึ้นรถไฟ เรียวโมก็เอาข้าวกล่อง Torokko bento มาทานค่ะ
ขากลับก็ชั่วโมงกว่าๆ ใจจริงยังไม่อยากกลับเลย กำลังเพลินเลยทีเดียว!!!
สำหรับวันนี้ลาไปด้วยของกิน 55 สวัสดีค่าาาาา
Categories: จุดท่องเที่ยว, ญี่ปุ่น, อาหาร, ใบไม้ผลิ