วันนี้พามาเที่ยวใกล้ๆ กับโตเกียวเลยค่ะ ชื่อเมืองจิจิบุ (Chichibu) หมู่บ้านนากาโทโระ (Nogatoro) เมืองจิจิบุสามารถเดินทางด้วยรถไฟหลากหลายเส้น หลายทางเลือก ไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถไฟสาย Seibu ที่มาจาก Ikebukuro มาจิจิบุก่อน แล้วต่อรถไฟ Local เพื่อมาหมู่บ้านนี้ หรือสายรถไฟ JR แล้วต่อสาย Chichibu Railway ก็ได้ สำหรับคอร์สเที่ยววันนี้เรามาที่นากาโทโระถ้าตรงมาที่นี่เลยก็น่าจะเดินทางด้วย JR จะเหมาะกว่า
ถ้าบินมาลงโตเกียวแล้วอยากหามุมมองใหม่ๆ ไม่ซ้ำใครต้องมาที่น่าจะตอบโจทย์ได้ดีจริงๆ ไม่ว่าจะเรื่องออนเซ็น ชมดอกไม้ ธรรมชาติสวยๆ เมืองเก่า การของพรแสวงบุญ และตะลุยกิน
ในส่วนของ 1 วันเนี่ยวจะเที่ยวให้ครบหมดคงจะยาก เลยจะแบ่งเอาค่ะ จะเป็นวันชมดอกไม้ ท่องธรรมชาติ ตะลุยกิน และแช่ออนเซ็นส่วนชมเมืองเก่า และขอพร เดี๋ยววันถัดไปจะไปต่อกันค่ะ วันนี้สามสิ่งก็หมดวันแล้วแน่นอน
สถานีนากาโทโระ จะไม่ใช่สายรถไฟสายด่วน และไม่ใช่สถานีใหญ่หน้าตาก็เลยจะสุดแสนคลาสสิคแบบนี้แหล่ะจ่ะ
การเดินทาง :
จากสถานี Kumagaya : ด้วยการโดยสารรถไฟสาย JR Takasaki โดยสารรถไฟที่ไปยัง Mitsumineguchi สาย Chichibu Railway ใช้เวลา 50 นาทีจากนั้นให้ลงที่สถานี Nagatoro ซึ่งจะใช้เวลาเดินไปยังโรงแรมที่จะพักคืนนี้ 5 นาที
จากสถานี Tokyo : ใช้เวลา 40 นาทีในการเดินทางไปยังสถานี Kumagaya ด้วยรถไฟ JR Shinkansen
โรงแรมอยู่ไม่ไกลจากสถานีเดินแค่ 5 นาทีเพราะฉะนั้นพวกเราเลยสามารถที่จะเอาของไปฝากไว้ที่โรงแรมก่อนได้ ชื่อโรงแรมที่จะนอนวันนี้ดูจากรีวิวด้านล่างได้เลยนะจ๊ะ เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวตามลำดับคอร์สของเรา จุดแรกที่เราจะไปกันจะเป็นที่นี่เลยค่ะเป็นโรฟเวย์
เราจะไปขึ้นโรปเวย์ที่ HodosanRope-Way เป็นโรปเวย์ที่จะพาเราไปดูดอก Roubai และดอกบ๊วยถึง 170 ชนิดเลยค่ะ ความสูงจากภูเขาโฮโด หรือโฮโดซังเนี่ยก็ไม่น้อยเลย 497.116 เมตร ซึ่งก็มีนักท่องเที่ยวนิยมมาปีนเขากันเยอะมากเลยค่ะ ขนาดไม่ใช่วันหยุดก็คนเยอะ
ใครสนใจเรื่องชมดอกไม้ก็น่าจะชอบนะคะ นี่ตอนนี้เรามาดอกบ๊วยยังตูมๆ ถ้าบานคงสวยมาก เพราะมีเป็นดงเลย
แต่ถ้าเป็นช่วงนี้ก็คงเป็นดอกโรไบเพื่อนๆ สามารถดูข้อมูลดอกโรไบได้ที่นี่ค่ะ >> http://www.pref.saitama.lg.jp/chokotabi-saitama/th/travelmag/24.html
เค้ามีรถรับส่งจากสถานีรถไฟด้วยค่ะ เพื่อนๆ เห็นรถเหลืองนี่ก็ขึ้นมาได้เลยบริการฟรีจ้า
ที่นี่มีของฝากเพียบเลยค่ะ รวมถึงโค้กที่เป็นลิมิเตดของไซตามะเท่านั้น
นี่สนใจในโคล่าของไซตามะมาก เลยจัดมาขวดบนขวา รสคล้ายๆ กับรูทเบียร์เลย
เอาหล่ะไปขึ้นโรปเวย์กันเค้าออกทุกๆ 10 นาทีค่ะ
เราจะไต่ไปเกือบๆ ยอดเขาเลยค่ะ เดินขึ้นไปอีกนิดเดียวก็ยอดละ แต่ว่าก่อนเดินถึงยอดก็ต้องไปชมดอกไม้กันก่อน ถ้าธรรมดา เราคงไม่มาแน่ๆ จริงๆ ยอดเขาก็มเรื่องสนุกๆ อีกนะคะ ไม่ใช่แค่ดอกไม้เท่านั้น
ขึ้นไปเราก็พอจะเห็นดอกบ๊วยบานส่วนหนึ่งค่ะ เพราะบ๊วยมีถึงร้อยกว่าชนิด ก็คงมีบางพันธ์ที่บานเร็ว
สีนี้ก็สวย
ต้นใหญ่มาก ถ้าบานเต็มที่คงสวยมากๆ
นี่เราขึ้นมาเกือบๆ ยอดเขาแล้ว
ดอกโรไบก็เพิ่งจะออกค่ะ ดอกนี้สีเหลือง สวยเชียว
ถ้าวันอากาศดีๆ ก็คงสวยเพราะสีตัดกับฟ้า
ถ้าเราได้มาช่วยบานตรงนี้ทั้งหมดก็จะเป็นดอกไม้เลย
เอาหล่ะเราจะเปลี่ยนไปที่ยอดเขากัน
ที่นี่มีศาลเจ้าและร้านค้าที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ คือร้านนี้ดีงามมาก ไม่ใช่อะไร ดันไปเจอยาย กับป้าย่างส้ม พอไปถามว่านี่ส้มจะย่างทานเหรอ เค้าบอกใช่ ขายลูกละร้อยเยน
ยายบอกอร่อยขึ้นเยอะมาก ไม่เชื่อลอง
เลยลอง แปลกมากจริงๆ ค่ะ อร่อยมาก หวาน แล้วหอมเปลือกส้ม ด้านในก็จะอุ่นๆ อร่อยจริงๆ ด้วย
เรานั่งทานส้มกันอยู่คุณป้า กับคุณยายก็ร้องเพลงประจำเมืองให้เราฟัง เป็นเรื่องของจิจิบุ ประทับใจมากๆ เลยค่ะ เที่ยวแบบนี้แหล่ะเป็นการท่องเที่ยวที่ประทับใจจริงๆ ไม่ธรรมดา
ในร้านคุณยายมีทำโอเด้งไว้ด้วย
แล้วที่เด็ดมากๆ อีกสิ่งคือลูกพลับแห้ง อร่อยมาก หวานมาก
ใครจะกินอะไรก็หยอดในกล่องไม้อันนี้
อร่อยจริงๆ อยากให้เพื่อนๆ มาลองที่นี่พอมาถึงอย่าลืมที่จะไหว้สักการะเทพเจ้ากันด้านบนด้วยนะคะ
นั่งชมวิวบนยอดเขาหน้าศาลเจ้า ดีงามมากๆ
เครื่องรางก็มีจร้า
เอาหล่ะได้เวลากลับกันแล้วนะคะ นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่ถูกใจคือการเดินทางมาขึ้นโรปเวย์ก็ไม่ได้คาดหวังมากว่าจะสวย ประทับใจ แต่บอกเลยวิวดี ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ค่ะ
ถ้ากลับแล้วไม่มีขนมติดมือกลับไปก็ไม่ใช้อีฮั้นสินะ นี่เป็นขนมที่อร่อยสุดๆ ของเมืองจิจิบุเลยค่ะ
มีหลายรสไปที่ไหนก็เจอ มีทั้งรถถั่ว รสเนย
เอาหล่ะ ซื้อขนมไปทานบนเรือเล่นดีมั๊ย นี่คือสิ่งที่มโนว่าจะทำก่อนจะไปขึ้นเรือชมผาซึ่งเป็นกิจกรรมถัดไป
ถ้ามาที่นี่หน้าร้อน สีจะเขียวสวยเลยค่ะ แต่นี่มาหน้าหนาว อาจจะมีความแห้งแล้ง แต่ฟ้าจะเคลียร์สวยไปอีกแบบนะคะ
หน้าหนาวมาแล้วควรนั่งเรือ Nagatoro River Boating ที่มีโคทะซึหรือโต๊ะที่สอดไปแล้วเท้าจะอุ่น ซึ่งเป็นสิ่งทำให้ชาวญี่ปุ่นขี้เกียจ 555 จริงส่วนตัวแล้วเข้าไปไม่อยากออกมาเลย
อีฮั้นก็ไปนั่งแล้วฟินสุดๆ อุ่นเท้า เค้าจะมีแค่ช่วงเดือนมค. – กพ. ของทุกปีเท่านั้นค่ะ ชื่อคอร์สเรือว่า IwadatamiCourse
รายละเอียดของเรือสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่นี่นะคะ >> https://saitama-th.com/nagatoro-chichibu-attraction.php
เมื่อลงจากเรือก็เริ่มหิว จริงๆ เลยเวลาข้าวไปแล้ว เลยมาแวะหาอะไรทานก่อนไปทานข้าว ไม่อยากทานตอนเที่ยงแป๊ะๆ เกรงว่าคนจะเยอะน่ะ
ที่หมู่บ้านนี้ก็อยู่ติดกับโรงแรม นากาโทโระเป็นหมู่บ้านไม่ใหญ่ เดินกันได้หมดค่ะ
ร้านนี้เลยที่อยู่ใกล้ท่าเรือ เค้ามีไส้กรอก และเป็นตัวโรลที่ชื่อว่า “มิโซะคาเรด๊อก” มีสองราคา ไซส์เล็กจะอยู่ที่ 250 และไซส์ใหญ่จะอยู่ที่ 610 เยน คุณป้าที่ขายใจดีมากๆ ค่ะ เราอยากกินอะไรก็กดตู้เอาแล้วเอาตั๋วไปสั่งอาหารนะคะ
ราคาไม่แพงด้วยสองร้อยห้าสิบเอง
เนื้อแป้งดีมาก เหมือนแพนเค้ก ผสมโรตี เนื้อเด้งสุดๆ ชอบถูกใจมากๆ
ใครติดใจไส้กรอกเค้าสามารถหาซื้อได้ในร้านนะคะ
จริงๆ มาเมืองนี้หน้าร้อนแนะนำให้กินน้ำแข็งไส แต่จุดนี้ไม่ไหว ขอบาย หนาว ถ้าซอฟครีมพอสู้ได้ เอาหล่ะมาอีกร้านที่น่ากินคือซอฟครีม
ร้านนี้จะเป็นร้านชื่อดังของหมู่บ้าน แนะนำสำหรับคนชอบกินซอฟครีมนะคะ มาเช็คอินที่นี่ได้เลย
แล้วเมืองนี้ก็เป็นเมืองแห่งถั่ว สารพัดถั่วมีขายที่นี่ มีทั้งคาว หวาน
จัดได้เลย เป็นของฝากได้ เพราะมีอายุเป็นเดือน ลองสอบถามคนขายได้ค่ะ ว่าเอากลับไทยได้มั๊ย
จุดต่อไปคือร้านอาหาร Umedaya เป็นร้านที่ดังมาก คนเยอะจริงๆ ค่ะ เข้าไปแล้วตกใจมากเลย ร้านนี้ของขึ้นชื่อคือเต้าหู้ จะบอกว่าของหวานเค้าก็อร่อย พลาดไม่ได้เลยมาแล้วต้องจัดเต็มค่ะ
ร้านอาหารเค้ามีเว็บให้ดูด้วย ใครสนใจขอเชิญดูเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย >> http://nagatorotoufu.wixsite.com/umedaya
ในร้านจะตกแต่งแบบโบราณ แต่มีร้านค้าขายเสื้อผ้าและของที่ระลึกด้วยค่ะ
ห้องน้ำยังน่ารักเลยค่ะ สำหรับที่นี่
เสื้อผ้าแนวๆ
มาแล้วค่ะ เมนูสารพัดเต้าหู้ อร่อยมากๆ ค่ะ ถ้าคนชอบก็จะฟินไปเลยทีเดียว
อร่อยไม่อร่อยก็ดูจากจานค่ะ น้ำซุปเกลี้ยงมาก
ขนมก็มา แนะนำให้สั่งทุกอย่างห้าาาาาาาา เพราะอร่อยค่ะ
ส่วนตัวชอบพุดดิ้งแต่รุ่นพี่เค้าชอบชีสเค้ก
อันนี้เค้าบอกอร่อยสุด แต่ชอบพุดดิ้งมากกว่า แล้วแต่คนชอบเนอะ
อันนี้เลยจร้า
ชานมรสเต้าหู้
กาแฟดำค่ะ อันนี้ไม่ใส่นมถั่วเหลืองนะ
ถ้าสั่งเป็นโอเรก็จะใส่น้ำเต้าหู้เหมือนกัน
เอาหล่ะ เราจะเข้าโรงแรมเร็วหน่อยเพราะวันนี้กิจกรรมกินเที่ยวเยอะ ไปแช่น้ำแร่ให้สบายตัวกันดีกว่าวันนี้เราเลือกพักที่ Hana no Omotenashi Choseikan (花のおもてなし長生館)
ถ้าเราเข้าที่พักเร็ว เราจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศเรียวกังมากขึ้นค่ะ
น้ำแร่ดีงามค่ะ ขอบคุณภาพจากเรียวกัง ถ่ายเองไม่ได้เพราะมีคน ><!
หลังห้องก็สามารถชมวิวแม่น้ำได้ค่ะ สวยงาม
อากาศดีๆ อยู่กับคนรู้ใจ โอ้วววว ฟิน
ห้องพักอันแสนอบอุ่น
มีขนมให้ทานด้วยค่ะ
ลืมถ่ายที่นอนนนนนนนน ฮืออออ เค้ามาปูตอนไปทานข้าว
ในส่วนของร้านค้า ก็จะมีของแฮนด์เมด แล้วก็ขนมขายค่ะ
ใครผ้าพันคอไม่พอก็มาจัดได้นะคะ
มื้อค่ำของเรา
เนื้อย่างนี่สั่งเพิ่มค่ะ ฟินมาก
มื้อค่ำเป็นไคเซกิค่ะ มีหลายเมนูเหลือเกิน ท้องจะแตก ดันไปสั่งเนื้อมาสิคะ ตอนแรกคิดว่ามีชาบูๆ แล้ว แค่อยากทานสเต็กเพิ่ม ไม่คิดว่าเมนูไคเซกิจะมีเยอะไม่จบไม่สิ้น ไม่ต้องกลัวอดนะคะเพื่อนๆ ที่นี่ของกินแน่นมากค่ะ
มื้อเช้าก็จะประมาณนี้
นั่งชมวิว กินข้าวไปพลางๆ ค่ะ
ใครสนใจคอร์สนี้ก็ลองมาจัดดูนะคะ แนะนำเลยว่าประทับใจตั้งแต่ขึ้นเขาแล้วจริงๆ ค่ะ สวัสดีค่าาาา
Categories: จุดท่องเที่ยว, อาหาร
บันทึกของโซโนโกะ 