ยอมรับเลยตอนเด็กๆเคยมีความฝันอยากอยู่บ้านที่มีโฮสมีคุณพ่อคุณแม่อยู่จริง

มาพักแบบมินชุคุที่”โนคะมินชูคุกุซะ”จังหวัดซากะพักแบบตามรอยละคร “Stay ซากะฉันจะคิดถึงเธอ”

สนุกกับการใช้ชีวิตแบบไม่เร่งรีบอยู่กับคุณแม่มิโดริไปเก็บผักกินข้าวที่คุณแม่ทำให้อร่อยมากๆค่ะกินแบบชนบทชีวิตแบบนี้ดีมากมายใครสนใจคุยกับคุณแม่มิโดริได้ที่เฟสบุ๊คได้ที่นี่ >> https://m.facebook.com/mitsuseguza/

เอาหล่ะ มาเริ่มต้นจากฟุกุโอกะ แล้วเดินทางไปยังสถานีซากะ (Saga Station) กันค่ะ

การเดินทาง

จากสถานี Fukuoka Airport ด้วยบัสจะใช้เวลา 1 ชั่วโมง 9 นาทีราคา 1,230 เยน, เดินทางด้วยรถไฟจากสนามบิน โดยเปลี่ยนสายที่สถานี Hakata จะใช้เวลา 50 นาที ค่าโดยสาร 2,710 เยน (กรณีจองที่นั่งถ้าไม่จองจะถูกลงไปอีกพันกว่าเยน)

จากสถานี Hakata โดยสารรถไฟ Express Kamome ที่มุ่งหน้าไปยังนางาซากิ ค่าโดยสาร 1,110 เยน

เมื่อถึงสถานีซากะจะมีบัสที่มาถึงใกล้ๆ กับที่พัก โดยใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมง และก่อนเดินทางให้แจ้งทางคุณแม่มิโดริ ว่าจะออกจากสถานีฮาคาตะ หรือสนามบินกี่โมง ทางคุณแม่จะไปรอที่จุดจอดรถบัส และเดินทางไปยังบ้านพักประมาณ 5 นาที

นี่แหล่ะทางเข้าบ้านพัก

บ้านเค้าเพิ่งจะหิมะละลายค่ะ แปลงผักก็จะมีหลายต้นที่เสียหาย พื้นก็จะแฉะๆ หน่อย

ดูบ้านสิคะ เป็นอะไรที่คลาสสิคมากๆ

อันนี้หลังบ้านเลยค่ะ มีเตาพิซซ่าแบบโบราณด้วยนะคะ

ส่วนตรงนี้ก็จะเป็นนาข้าวรอบๆ ที่พัก

เดินเล่นชิลๆ ค่ะ

เพราะคุณมิโดริจะไปเก็บผัก ก็จะขอติดเค้าไปด้วย เค้าก็ให้เราช่วยเก็บ วันนี้สวมบทบาทแม่ลูก อิอิ

วันนี้เราจะได้กินอะไรน้อ

จองที่พัก กับอาหารเช้า ค่ำ ราคาประมาณ 7,000 เยน ไม่รู้ว่าจากที่รีวิวไป คุณแม่จะทำราคาลดให้กับคนไทยรึเปล่านะคะ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเกาหลี กับคนตะวันตก คุณมิโดริเล่าว่าเคยมีคนไทยมาแล้วผัดกระเพราให้ทานโดยใช้ใบ Basil แทน ซึ่งคุณมิโดริประทับใจมากๆ ก็ถ้าใครไปแล้วจะเข้าครัวให้คุณมิโดริสักเมนู เค้าก็คงดีใจอ่ะค่ะ อย่าลืมนำพริกสดไปด้วยนะคะ ห้าาาา

เมื่อเก็บผักเสร็จแล้วก็กลับบ้านค่ะ

คุณแม่มิโดริเค้าให้เราไปนั่งเล่นให้บ้านค่ะ

ที่บ้านของคุณแม่จะมีแมวอยู่ 3 ตัว ซึ่งแมวจะไม่ได้อยู่ในบ้านหลังที่เรานอน แต่ถ้าเราไปเชิญชวน นางก็จะแวะมาเยี่ยมเราค่ะ

คุโระจัง แมวอ้วน ที่ทำตัวหนิดหนม กับเรา น่ารักมากๆ

ในบ้านมีโต๊ะโคทัตสึที่สร้างความขี้เกียจให้กับเราเป็นอย่างมาก คุณแม่ให้เรานั่งเล่นไปพลางๆ

มีเคาน์เตอร์กันระหว่างครัว แต่แมวเดินเข้าออก กระโดดสูงได้แม้จะอ้วน ถ้าเพื่อนคนไหนแพ้ขนแมวไม่ต้องห่วงนะคะ ปกติแล้วแมวไม่ได้นอนที่นี่ จะมาถ้ามีคนไปชวนเค้าเท่านั้นค่ะ

มีเตาอิโรริ ที่คุณแม่จะย่างโมจิให้ทานด้วย

หน้าบ้านเป็นแบบนี้ ค่ะด้านในมีบันไดขึ้นไปด้านบน ในบ้านจะไม่มีห้องน้ำ ถ้าต้องการเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนต้องเดินออกมาด้านนอกแล้วเข้าค่ะ คล้ายๆ บ้านในอดีตของไทยแต่ห้องน้ำก็ติดกับตัวบ้านแหล่ะ

มาดูชั้นสองกันบ้างนะคะ มีห้องนอนสองห้องนะค วันนี้นอนห้องเดียวกับที่นางเองนอนเลยค่ะ และด้านบนจะมีเก้าอี้ให้นั่งเล่นด้วยในบ้านมี wifi ให้ใช้ฟรีค่ะ

ห้องนอนเป็นแบบนี้ กลางคืนเราก็ปูฟูกนอน

บรรยากาศบ้านๆ มากมาย

ที่คุณแม่ให้เรารอ เพราะเค้าไปเตรียมฟืน มาใส่อ่างต้มน้ำให้เราอาบ อร้ายยยยยย

ได้อาบอ่างเดียวกับพระเอก นางเอกเลยค่ะ เป็นน้ำต้มแบบโบราณ ร้อนตอนแรกๆ ตอนหลังฟินมากมาย!!!!!!

และเมื่ออาบน้ำเรียบร้อยแล้วก็เตรียมตัวทานข้าวกันค่ะ

เด็ดมากขอบอก คุณแม่มิโดริทำอาหารอร่อย มากกกกก ตอนแรกเห็นเป็นผักๆ แอบกลัว แต่กลิ่นหอมสุดๆ ที่ชอบมากๆ คือลูกชิ้นไก่ทำเอง เป็นคาเร่นาเบะ อร่อย ไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน กินเยอะมากเลยค่ะวันนั้น

และโมจิย่าง อร่อยมาก ถั่วแดงทำเองไม่ได้ใส่น้ำตาล รสเลยเป็นแบบธรรมชาติ อร่อย หอม แต่พลาดตรงไส้มันทะลักออกมา เลยถ่ายรูปมาได้แบบนี้

คุณแม่เค้าตากข้าวโพดตากผัก

และเค้าก็มีน้ำผลไม้ให้เราด้วยอันนี้แถมเพราะว่าไม่ได้ทำทุกวันในมื้อเช้าคุณแม่จะเตรียมของใหม่ๆ ให้กับเราค่ะ ตอนแรกขอเค้ากินนาเบะอีกแต่เค้าให้เรากินของใหม่ อยากกินอีกต้องไปนอนอีกรอบสินะเอาละใครที่เห็นที่พักแนวๆ ตามรอยละครแบบนี้แล้ว จะตามไปพักก็ไม่ว่ากันนะคะ ลองติดต่อคุณแม่ไปแล้วจะติดใจเหมือนมีญาติผู้ใหญ่เพิ่มเลยค่ะ