วันนี้จะพามาเที่ยวจังหวัดที่อยู่ไปห่างจากโตเกียวไม่มาก มีของอร่อยๆ มีของให้ซื้อตลอดการเดินทาง เรียกได้ว่าสนุกแน่ๆ ถ้ามาที่นี่ แต่หลายคนอาจจะเคยได้ยินแค่เมือง Echigo Yuzawa บางคนแทบไม่รู้เมืองนี้อยู่ในจังหวัดอะไร เอาเป็นว่าเมืองนี้ก็อยู่ในจังหวัดนีงาตะนะ เพียงโดยสารรถไฟชินคันเซ็นเลยมาอีก 50 นาทีเท่านั้นก็จะถึงในตัวเมืองนีงาตะ ถ้าใครอยากได้จุดท่องเที่ยวไม่ซ้ำใครละก็ แนะนำเลยที่นี่มีจุดสวยๆ น่าสนใจเพียบ!
จังหวัดนีงาตะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีการปลูกข้าวเป็นสินค้าหลัก จึงทำให้ที่นี่มีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากข้าวเป็นขนม เครื่องดื่มจากยีสต์ สาเก อีกทั้งด้วยจังหวัดนี้ยังมีพื้นที่ๆ ติดกับทะเล จึงทำให้อาหารทะเลนั้นมีความสด ไม่แพ้จังหวัดอื่นๆ เลย แถมยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับอนิเมะเบาๆ อีกต่างหาก การเดินทางไปจังหวัดนีงาตะทำได้ไม่ยากด้วยรถไฟชินคันเซ็น จึงทำให้การเดินทางไปเที่ยวจังหวัดนีงาตะนั้นสามารถทเดินทางแบบไปเช้า เย็นกลับได้นะ แต่ถ้าให้ดีใช้เวลาอยู่ที่นี่ค้าง แล้วไปเที่ยวเกาะซาโดะกันจะฟินไม่น้อยเลยจ่ะ เอาหล่ะ จังหวัดนีงาตะคืออะไร เป็นยังไง วันนี้ไปดูในเมืองเค้ากัน!!!
การเดินทางด้วยรถไฟ
การไปจังหวัดนีงาตะนั้นสามารถเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็นจากสถานีโตเกียว ด้วยรถไฟชินคันเซ็นสาย Joetsu Max Toki ซึ่งสำหรับเพื่อนๆ ที่พักอยู่ที่สถานีรถไฟอุเอะโนะก็สามารถโดยสารรถไฟสายนี้ได้จากที่นั่นเช่นกัน โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 8 นาที
ขึ้นรถไฟสายกิ๊บเก๋ไฮโซ GENBI
ในการเดินทางไปยังสถานีนีงาตะในวันเสาร์-อาทิตย์ สามารถโดยสารรถไฟเที่ยวพิเศษจากสถานี Echigo Yuzawa ได้ รถไฟแสนสวยขบวนนี้ที่มีชื่อว่า GENBI จะพาเพื่อนๆ เดินทางแบบชิลๆ เป็นเวลาประมาณ 50 นาที ราคา 6,260 เยน ถ้าใครที่ซื้อพาสของ JR East ที่ใช้ในพื้นที่จังหวัดนีงาตะ การโดยสารรถไฟสายนี้ก็จะรวมอยู่ในนี้เช่นกัน ใครมาเที่ยวยูซาว่าก็เลยมาสิจ๊ะ ได้ขึ้นรถไฟขบวนเก๋ๆ นี้ด้วยนะ
ด้านในของรถไฟสายนี้ จะเต็มไปด้วยงานศิลปะที่แสดงเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา และมีโซฟาให้นั่งสบายๆ
เที่ยวในเมืองนีงาตะโดยใช้พาส
เมื่อเดินทางถึงสถานีรถไฟ เจอาร์ นีงาตะ (JR Niigata) หากต้องการจะไปจุดที่ซื้อพาสในเมืองแล้วละก็ให้ใช้ทางออก Bandai เพื่อไปซื้อบัตร 1 Day สำหรับใช้กับรถบัส city loop ไปยังจุดท่องเที่ยวต่างๆ ของเมืองนีงาตะได้ในราคา 500 เยน ได้ที่ Bus terminal (Bandai Exit Tourist Information Center)
เมื่อซื้อตั๋วมาแล้ว ก็ต้องขูดวันที่ และเดือนที่เราใช้ จากนั้นก็ชูให้กับรถบัสที่เราขึ้นขณะลงแล้วจะใช้โดยสารได้ 1 วัน การจะเดินทางไปยังจุดต่างๆ ต้องทำแผนเดินทางดีๆ เพราะรถบัสน่าจะมีชั่วโมงละเที่ยวนะคะ จะเดินทางไปไหนต้องดูจากพาสว่าผ่านจุดไหนบ้าง
ที่เมืองนี้ก็ถือว่าเป็นเมืองแห่งมังกะ และอะนิเมะ (หนังสือการ์ตูน และการ์ตูน) นะ เพราะเค้ามีทั้งพิพิภัณฑ์ และสถานที่ๆ จัดแสดงให้กับแฟนๆ ของมังกะตามที่ต่างๆ หลายจุดในเมืองอยู่ ว่ากันว่ามังงะ หลายต่อหลายเรื่องก็พูดถึงเมืองนีงาตะกัน ถ้าเรามาถึงนี่จะเห็นมีพวกคาเรคเตอร์อยู่ เช่น รถบัส หรือแม้กระทั่งป้ายของเมืองด้านหน้าสถานีก็มีเจ้าแมว What’s Michael อยู่ด้วย นับได้ว่าที่นี่เป็นเมืองอาร์ตเมืองหนึ่งเหมือนกัน และคนเขียนการ์ตูนยังมีบ้านนเกิดอยู่ที่นี่เช่นกัน
ในส่วนของตึกอาคารที่นี่ก็เก๋ไก๋ แปลกตามีทั้งอาคารแบบตะวันตก และอาคารที่ทันสมัยบริเวณทางเดินไป สะพาน บันได (Bandai bridge) ที่เหมือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์ ประวัติศาสตร์ จังหวัดนีงาตะ (Rekishi Hakubutsukan)
สำหรับที่นี่การเดินทางด้วยบัสนั้นจะต้องลงที่ Rekishi Hakubutsukan mae เสน่ห์ของที่นี่นั้นไม่ใช่แค่เพียงเรื่องการเดินทางมาเพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ แต่ที่นี่ยังมีอาคารที่สวย และยังติดท่าเรืออีกด้วย ซึ่งหากมีเวลามากๆ สามารถโดยสารเรือเล่นจากที่นั่นได้ อีกทั้งใกล้ๆ กันยังมีร้านอาหารที่จะสามารถนั่งชมวิวสวยๆ ของท่าเรือได้อีก
ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ผู้ใหญ่ 300 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย หรือนักศึกษามหาวิทยาลัย 200 เยน และเด็กตั้งแต่มัธยมต้นลงไป 100 เยน
ที่นี่มีเวลาปิด – เปิดตั้งแต่ 9:30 – 18: 00 (ช่วงเดือน เมษายน – กันยายน), 9:30 – 17:00 (ช่วงเดือน ตุลาคม – มีนาคม)
อิ่มเว่อร์ ช้อปปิ้งสินค้าโอทอปของจังหวัดนี้รวมไว้ที่ Pia Bandai
สนุกมากเลยสำหรับที่นี่ กินไปช้อปไปกับการเที่ยวตลาดปลา อาหารทะเล โดยเค้าจะแบ่งเป็นโซนๆ ตามประเภทสินค้า และเราก็สามารถรับประทานซูชิที่ทั้งอร่อย และสดได้ที่นี่ ตลาดอาหารทะเลที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องปูที่สด และใหญ่มากๆ โดยที่นี่สามารถซื้อและนำไปปรุงเองที่บ้าน ซึ่งตรงนี้นักท่องเที่ยวอาจจะไม่สามารถทำได้ อาคารข้างๆ กับตลาดจะมีจุดที่รับประทานอาหารทะเลได้ ที่นี่มีร้านคาเฟ่เก๋ๆ และร้านค้ามากมาย หลายโซน ซึ่งไม่ใช้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่ แต่ยังมีชาวนีงาตะเองที่เดินทางมาจับจ่ายสินค้าอาหารทะเล สดแห้งกันมากมาย และติดๆ กับตลาดทางด้านหลังยังมีท่าเรือที่มีวิวสวยๆ ให้เราได้ชมกันอีกด้วย
ท่าเรือด้านหลังก็มีจ่ะ ป้ายรถบัสก็จะอยู่ตรงด้านหน้าของตลาดเลย
เวลาปิด – เปิดตั้งแต่ 6:00 – 22:00 น.
กลับมาที่สถานีก็มีกิจกรรมนะจ๊ะ สนุกได้ที่สถานีนีงาตะ
จริงๆ แล้วใกล้กับสะพานบันไดจะเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่เลยก็ว่าได้ แต่ที่สถานีก็ไม่แพ้กัน เค้าก็มีทั้งโยโดบาชิคาเมร่า บิ๊กคาเมร่า ร้านเสื้อผ้า รวมถึงร้านอาหารมากมาย และฝั่ง Bandai ยังเป็นจุดที่ขึ้นรถบัสไปยังท่าเรือต่างๆ อีกด้วย ซึ่งวันนี้เราเลือกนอนที่ซีกนี้เลยจ่ะ
จุดที่จะซื้อของฝากที่นี่ก็จะเป็นที่บริเวณ Niigata Ponshukan ที่ทางออกด้าน West ชั้น 3 ของสถานีเป็นจุดที่ไม่ควรพลาด เพียงแค่เห็นด้านหน้าของร้านจะสามารถรู้ได้ทันทีว่าที่นี่ต้องมีอะไรที่เกี่ยวกับเหล้าอย่างแน่นอน เพราะจะมีสัญลักษณ์เป็นคุณลุงถือขวดอยู่ จังหวัดนีงาตะเป็นจังหวัดที่ปลูกข้าวเป็นหลัก ที่นี่จึงรวมผลิตภัณฑ์ทีเกี่ยวกับข้าว ไม่ว่าจะเป็นขนมต่างๆ อาหาร และสำคัญที่สุดคือสาเก เครื่องสำอางที่ทำจากข้าว ที่เป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดได้ถูกรวมไว้ที่นี่หมดแล้ว
ด้านในสถานีรถไฟ Niigata นอกจากจะช้อปปิ้งในร้านค้าในสถานีนีงาตะ ด้าน East ของสถานีจะมีของฝากขาย และของทานเล่นขณะเดินทางกลับโตเกียวได้ที่ชั้น 3 ของสถานีในส่วนของบริเวณศูนย์การค้า CoCoLO ได้ด้วย
ช้อปพังกระจายที่ร้าน Mode off
หากเป็นคนสนใจสินค้ามือ 2 ก็จะแนะนำร้าน Mode off ที่อาคารสถานี JR Niigata ดีงาม ราคาถูก เห็นร้านเล็กๆ แบบนี้จัดมาหลายสิ่งหมดไม่ถึง 2,000¥ ใครมาเที่ยวที่นีงาตะ อย่าได้ลืมแวะเช็คราคา และของที่อาคารชั้น 1 เดินฝั่ง Big camera (South exit)
ของฝากขึ้นชื่อของเมืองนี้
จริงๆ ที่นี่มีของฝากเยออะเลย แต่ขอเลือกที่มีขายเยอะ และขายดีก่อนละกัน ก็จะมีขนมที่มีรสสาลี่ฝรั่ง ผลไม้ขึ้นชื่อจังหวัด (ルレクチェ) เช่น เค้ก คุ๊กกี้ ที่นี่มีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสาลี่เยอะเลย แล้วก็น่าทานทั้งนั้นวันนี้แอบซื้อเค้กสาลีไป 1 กล่อง
ขนมคางิโนะทาเนะ รสต่างๆ และเคลือบช็อกโกเลตบ้าง ชาเขียวบ้าง รถมอคค่า ชีส ฯลฯ จากขนมที่ทำจากข้าวเอาไว้แกล้มเบียร์ ก็เป็นขนมรสหวานเคลือบด้วยสรรพสิ่งต่างๆ ซึ่งขนมพวกนี้นอกจากจะซื้อได้ในสถานีแล้ว ตามร้านขายของฝากก็มีแทบทุกที่
เครื่องสำอางที่ทำจากสาเก สาเก ข้าว เช่น ขนมคุ๊กกี้ และขนมที่ทำจากข้าว เป็นอาราเร่ แล้วมาผสมถั่วคล้ายๆ กระยาสาท ปั้นเป็นแผ่นกลมๆ มีหลายรสมากๆ ของที่อยู่ใน ปองชูคัง นี่น่ากินไปสะหมดเลย แต่ที่นิยมกันมากๆ ก็จะเป็นคุ๊กกี้ และเจ้าอาราเร่แผ่นกลมเนี่ยแหล่ะ
กิจกรรมแนะนำ
รำแต่งชุดกิโมโน
การมาญี่ปุ่นสำหรับหลายๆ คนก็อยากจะเข้าถึงด้วยการแต่งชุดประจำชาติของคนญี่ปุ่น แต่ถ้าจะให้สนุกสุดๆ ก็ต้องมีการเพิ่มกิจกรรมรำพัดญี่ปุ่นเข้าไปด้วย ถ้ามีเวลาเยอะๆ กิจกรรมนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าจับใส่แพลนเลยค่ะ
ขั้นตอนแรกใส่กิโมโน ก็ดูจะแฮปปี้กันทุกคนค่ะ ครูผู้สอนก็คงนึก นี่ไม่ใช่การใส่กิโมโนเดินเล่นสนุกๆ แบบที่พวกเธอเคยเจอมานะ 555
เอาสิคะ เรายังหน้าชื่นตาบานกันจริงๆ แต่เมื่อได้รำเท่านั้นแหล่ะ !!!
รำกันจนสติหลุดกันไปเลยทีเดียว!!! คือเห็นรำน่าจะชิลๆ แต่เปล่าเลยค่ะ จะรำพัดได้ท่าทางสวยนี่แอบยากนะคะ คงทำได้ดีที่สุดเท่าที่เห็นดังภาพที่ปรากฎแหล่ะค่ะ เราไปทำกิจกรรมนำร่องของ Tourism Information in KITAKU Niigata City เค้าเริ่มจัดขึ้น
ดูโชว์จากเกอิกิ
จริงๆ แล้วน่าจะเรียกได้ว่าอิทธิพลจากการชมการแสดงของเศร้าศิลปินเกอิกิเนี่ยแหล่ะค่ะที่ทำเอาเราคิดว่าอยากจะลองไปหัดกับเค้าบ้าง ที่เมืองฟุรุมาจิ เป็นเรียกได้ว่ามีชื่อเสียงในเรื่องเกอิชา 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ หลายคนอาจจะเคยทราบกันดีว่าที่เกียวโต ย่านกิอง และในโตเกียวย่านชิมบาชิมีชื่อเสียงในอดีต ที่นี่ก็เป็นจุดหนึ่งที่ได้ถูกบันทึกไว้ว่าเกอิชาที่เมืองฟุรุมาจิแห่งนี้จะมีชื่อเรียกว่า “เกอิกิ” ซึ่งเป็นผู้สืบทอดการร่ายรำในแบบ “อิชิยามะ”
ถือเป็นการรำที่เก่าแก่ สืบทอดมาถึง 120 ปี การรำแบบนี้หาชมได้ยากในญี่ปุ่นเลยค่ะ เราได้ชมโชว์พร้อมฟังซามิเซ็นจากอาจารย์ ซึ่งเป็นการแสดงที่งดงามถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เลอค่า และเราได้มารำที่ Saito Family Summer Villa ซึ่งเป็นบ้านพักในอดีตที่สามารถชมความงามของบ้านหลังนี้ พร้อมกับสวนแบบญี่ปุ่นได้ที่นี่
ทำมิโสะที่ร้าน Yamadaya
การเอาสรรพสิ่งที่อยู่ในถ้วยซุปมิโสะมาปั้นรวมกันแล้วเอาไปลงหม้อต้มนี่ก็น่ารักดีนะคะ เรียกได้ว่าวันนี้จะกินรสนี้ หย่อนไป 1 ก้อนก็ได้ซุป 1 ถ้วย ทำเป็นรูปต่างๆ ทำไปทำมาไม่อยากจะเอาลงหม้อ เสียดายสะงั้น!!
จริงๆ แล้วกิจกรรมทำมิโสะเนี่ยก็น่ารักไปอีกแบบ แต่แอบมีสิ่งหนึ่งที่เสียใจมาก คืออามะสาเกะ ที่นี่อร่อยมากแต่ซื้อมาน้อย เค้าบอกว่าที่ร้านนี้มีอามะสาเกะ ที่มีดารา ไอดอล ซื้อไว้เพื่อทานบำรุวผิวพรรณค่ะ
เดี๋ยวนะ สิ่งนี้ชื่อเหมือนเหล้า คือเหล้ามั๊ย?!?! ไม่ใช่นะคะ ไม่มีแอลกอฮอล์ผสมเลย และร้านนี้ตั้งแต่ทานมาในญี่ปุ่นอร่อยที่สุด ไม่หวานแหลมเหมือนที่อื่นๆ เป็นรสธรรมชาติมาก
สิ่งนี้ลักษณะเหมือนข้าวหมาก แต่ความนัว ความนุ่มมันมีกว่ามาก เค้าบอกว่าเค้ากลั่นสิ่งนี้ดังภาพเลย ใช้เวลากลั่น 8 ชั่วโมง ได้อามะสาเกะแบบสมบูรณ์ 1 สัปดาห์ต่อขวดเล็กค่ะ ที่ว่าเสียดาย เพราะซื้อมาทานแล้วสี่วันมีคนบอกว่าหน้าใสมาก เพราะสิ่งนี้จะช่วยปรับสมดุลย์ในร่างกายเราค่ะ คนที่มีปัญหาท้องผูกน่าจะซื้อไปก็ดีนะคะ ขวดเล็กสามร้อยกว่าเยน ขวดใหญ่แพงนิดหน่อยแต่คุ้มมากๆ ค่ะ ที่นีงาตะในตัวเมืองมีขายนะคะลองไปชิมกันดู
ทำเซมเบ้ วาดสิ่งที่เราชอบลงในข้าวเกรียบ
คืองานนี้คนชอบวาดอาจจะถูกใจ วาดได้ที่ Niigata Senbei Okaku เราจะได้รับความรู้สึกในการปิ้งข้าวเกรียบ หน้าหนาวจะฟินมาก ถ้าหน้าร้อนอาจจะร้อนนิดๆ ขั้นตอนการทำไม่ยาก เพียงได้แผ่นข้าวเกรียบ จากนั้นก็นำมาปิ้งพอได้ที่ก็นำไปวาดด้วยโชยุ แล้วก็เอาไปปิ้งอีก ระอุวนไปค่ะ แล้วเมื่อได้ที่ก็นำไปผึ่งแล้วใส่ซอง
ของแต่ละคนน่ารักดีค่ะ
สนุกมากๆ เห็นแต่ละคนทำแบบน่ารักเขียว แต่ของตัวเอง 5555
เมื่อทำกิจกรรมปิ้ง วาด เสร็จ ท้องก็หิว ไปหาของทานในร้านของฝาก และแนะนำค่ะ อร่อยมาก สำหรับซอฟครีมที่นี่มีรสเค็มของโชยุ แต่เข้ากั๊น เข้ากัน
มานีงาตะลองมาทานอาหารแนะนำ :
ร้านซูชิ เพียร์บันได ซูชิอร่อยฟินตั้งแต่เนื้อปลาไปยันข้าว ที่ตลาดปลา Pia Bandai ซูชิที่นี่ไม่ใช่แค่ปลาที่ขึ้นชื่อ กุ้ง หอย ปู แล้วยังมีของทอดอร่อยๆ อีกข้าวเค้านุ่มมาก คือทานซูชิปกติจะไม่ชอบข้าว มาร้านนี้อร่อยจัดทานหมดเลยค่ะ ข้าวก็ไม่เกี่ยง
ก็เพราะที่นี่ขึ้นชื่อด้วยเรื่องอาหารทะเล และเรื่องข้าวอยู่แล้ว จึงทำให้ซูชิที่นี่เรียกได้ว่าไม่มีที่ติกินแล้วเพลินมากๆ
ปลาสดมาก กุ้ง หอย ก็มาครบค่ะ ชอบจริงๆ สดทุกสิ่ง
ร้านอาหารอิตาเลียนชื่อว่า Nora Cucinaแห่งนี้
ภายในร้านเก๋มาก ลูกค้าเยอะจริงๆ ค่ะ มาแล้วต้องรอหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่าความอร่อย แถมอิ่มเว่อร์เลยค่ะ
คอร์สอาหารกลางวันนี่กินแล้วอิ่มไปจนเย็น ขนาดเป็นคนไม่ค่อยชอบทานแป้งนะคะ ยังเก็บสะเรียบ สิ่งที่ชอบสุดจะเป็นพาสต้าเมไตโกะ อร่อยมาก !!!
ของหวานนี่ฟินไฟยันเย็นเลยค่ะ อร่อยนัวไม่หวาน
ดูรายละเอียดร้านได้ทีนี่ >> http://noracucina.com/about/
ร้านยากินิคุ
ร้านอยู่ติด Yodobashi kamera ทางออกผั่ง Bandai วันนี้เราทานแบบไม่อั้น 90 นาทีราคา 2,000 เยน ถ้าต้องการเนื้อเกรดดีล้วนต้องสั่ง 3,000 เยนค่ะ ชื่อร้านว่า Shitirin-Tei คนที่ไม่ทานเนื้อก็จะมีหมูนะคะ กิมจิที่นี่อร่อยมากๆ ค่ะ มาแล้วต้องลองให้ได้นะ
ที่พักแนะนำสำหรับค่ำคืนนี้ ราคาไม่แพง สะดวกสบายสุดๆ จากสถานีเดิน 1 นาทีที่ Ramada Hotel Niigata สิ่งอำนวยความสะดวกครบขนาดนี้ ราคาแบบนี้ แนะนำเลยค่ะ
คลิกดูรายละเอียดโรงแรมที่นี่ >> https://www.japanican.com/th/hotel/detail/3122026
เอาหล่ะสำหรับใครที่เดินทางมาเที่ยวโตเกียวอย่าลืมจับนีงาตะ ใส่ในแพลนเที่ยวดูนะคะ แล้วรอบหน้าจะมารีวิวเกาะซาโดะ สวรรค์ของคนชอบกินปูค่ะ!!!
Categories: จุดท่องเที่ยว, ช้อปปิ้ง, ที่พัก, อาหาร, เนื้อย่าง
บันทึกของโซโนโกะ 